หอไอเฟลสัญลักษณ์แห่งเมืองปารีส
ตลอดหลายยุคสมัย
ผู้คนได้ท้ายทายข้อจำกัดทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
เพื่อความพยายามที่จะได้ใกล้คิดกับพระเจ้ามากขึ้นมีบางกลุ่มพยายามหาประโยชน์
ใช้สอยจากหอคอยในการทำเสาอากาศ ภัตตาคาร แต่สิ่งดึงดูดใจที่แท้จริงกลับมาจาก
ความคิดที่บริสุทธิ์มากกว่านั้น
หอคอยเป็นสิ่งที่แสดงถึงความทะเยอทยานของมนุษย์ และหอคอยที่โลกรักมาก
ที่สุดคือ หอไอเฟล (Eiffel Tower) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหอคอยที่มีความ
สูงเสียดฟ้า มีความงามสง่า รูปร่างอ่อนช้อยซึ่งสะท้อนให้เห็นจิตวิญญาณของฝรั่งเศส
หอไอเฟลได้รับการออกแบบและก่อสร้างในปี
ค.ศ.1839 มันคือผลงานชิ้นเอก
ในการ -ฉลองการปฏิวัติฝรั่งเศสอันนองเลือด
เมื่อ
100 ปีก่อนหน้า
14 กรกฎาคม ค.ศ.1789 ท่ามกลางความต้องการที่จะปฏิวัติ
ชาวปารีสได้เข้าโจมตี
ชนชั้นสูง บุกยึกคุกบัสติล ซึ่งมีผู้มีความคิดขัดแยงทางการเมืองถูกคุมขังเอาไว้ ผู้รัก-ชาติ
ได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชนชั้นปกครอง
ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐานสำหรับการเคลื่อนไหว
ประชาธิปไตยยุคใหม่
อีก 1 ศตวรรษหลังการปฏิวัติ ความภาคภูมิใจของฝรั่งเศสถูกบั่นทอนด้วย ความพ่าย
แพ้ของกองทัพต่อเยอรมัน ในปี 1870
และก็ ความคิดที่จะจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ
จึงเป็นหนทางอันยิ่งใหญ่เพื่อลืมความปวดร้าว และ เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่
ความร่ำรวย
ของประเทศ จึงจำเป็นที่ต้องมีผลงานศิลปะชิ้นเอกที่อวดแก่ฝูงชน และจากความสำเร็จใน
ยุคอุตสาหกรรมจึงนำเสนอความสำเร็จทางวิศวกรรม นั่นคือ หอคอย
หอคอยเหมือนเป็นสิ่งที่ชาญฉลาดทางเทคโนโลยี ในอดีตไม่เคยมีใครสร้างหอคอย
ที่สูงกว่า
1,000 ฟุต หลายคนพยายามลอง แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาก็มีการออกแบบไว้อยู่
หลายแบบ
แต่ก็ไม่เคยสร้างจริงขึ้นมา ฝรั่งเศสได้จัดการประกวดเพื่อออกแบบหอคอย
แบบ
แรกถูกเสนอโดย เวอร์ริส คล็อกลินซึ่งเป็นหนึ่งในคณะวิศวกรของ กุสตาฟ ไอ-เฟล
(Gustave Eiffel)
กุสตาฟ ไอเฟล เป็นทั้งสถาปนิกและวิศวกรชั้น
นำของฝรั่งเศส
ชื่อเสียงของเขาเกิดจาก การออกแบบสะพานที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
เขาค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบด้วยโครงสร้างโลหะ การที่มี กุสตาฟ ไอเฟล
เข้ามาร่วมงาน จึงเป็นเครื่องรับประกันในเรื่องเงินทุนสนับสนุน และความสำเร็จของงาน วิศวกรหนุ่มของ กุสตาฟ ไอเฟล 2 คน คือ เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย เริ่มแนวคิดในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร สำหรับงานแสดงสินค้าในปี ค.ศ.1890 ในปารีสเขาเริ่มร่างแบบโครงสร้างของหอ-
คอยอย่างคร่าวๆ และขอให้สถาปนิกชื่อ สตีเฟน สเตาว์เธอร์ ออกแบบส่วนตกแต่งเพื่อเติม
ซึ่งมีลักษณะเป็นช่อดอกไม้ โค้งและมีปติมากรรมเล็กๆ น้อยๆ โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก แนวคิดทางสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1887 ว่า สามารถสัมผัสกับท้องฟ้าในระดับที่ เป็นไปไม่ได้ คือ 1,000 ฟุต
กุสตาฟ ไอเฟล ได้เห็นแบบแปลนและอนุมัติ เขาได้สนใจแนวคิดเกี่ยวกับหอคอยนี้
และได้ออกแบบส่วนตกแต่งเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเข้าไปด้วย
การมีชื่อ กุสตาฟ
ไอเฟล อยู่ในโครงการ ทุกคนรู้ผลลัพธ์ของการแข่งขันนี้ การมีสายสัมพันธ์ทาง การเมืองและสังคมของกุสตาฟ ไอเฟล ทำให้มีความพร้อมที่จะผลักดันให้โครงการ ผ่านหน่วยงานปกครองของปารีสได้อย่างรวดเร็ว และทำให้โครงการจากแบบแปลน สำเร็จเป็นจริงได้ หอคอยซึ่งออกแบบจากความก้าวหน้าในยุคอุตสาหกรรม เป็น งานที่มีความท้าทายทางวิศวกรรม และ กุสตาฟ ไอเฟล จะได้แสดงให้เห็นถึงความความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่เคยใช้ในการออกแบบมาแล้ว
28
กุมภาพันธ์ ค.ศ.1887 กุสตาฟ ไอเฟล ได้เชิญแขกมากมายมาเป็นพยานใน
การก่อสร้างเขาอายุ 53 ปี และหอคอยจะเป็นความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบของเขา ในขณะที่พิธีการเริ่มขึ้น วิศวกร50 คนต้องช่วยกันร่างแบบ จำนวน 5,300 แผ่นสำหรับคนงาน 132 คน ใช้ในพื้นที่ก่อสร้าง ต้องใช้เวลา 4 เดือน ในการทำฐานรากสำหรับขาของหอ-คอย เสา 2 ต้น ถูกติดตั้งบนฐาน คอนกรีตหนา 6 ฟุตครึ่งที่ความลึก 23 ฟุตจากระดับดิน และมีขา 2 ข้างที่ใกล้กับ แม่น้ำแซนมาก จึงต้องใช้เขื่อนโลหะกันน้ำป้องกันในขณะที่ทำการเทคอนกรีต บนพื้นที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ |
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557
หอไอเฟลสัญลักษณ์แห่งเมืองปารีส
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น